วัดพระเยซูเจ้าเสด็จขึ้นสวรรค์

เดิมที บริเวณซอยหมอศรี (ปัจจุบันคือซอยศรีเสถียร) เป็นทุ่งนา จนกระทั่งปี พ.ศ.2510 คุณศรี ภูรีโรจน์ หรือที่เรียกกันคุ้นหูว่า หมอศรี ได้ทำการจัดสรรแบ่งขายที่ดินเป็นแปลงเล็กๆ ขนาด 100-200 ตารางวา โดยมีจุดประสงค์ที่จะให้เป็นหมู่บ้านคาทอลิก เพราะ ท่านเล็งเห็นว่าในเขตอำเภอสามพรานคงจะเป็นศูนย์รวมของบ้านนักบวชคณะต่างๆ เป็นแน่ และในระยะเวลานั้นวิทยาลัยแสงธรรมก็ได้ก่อ สร้างขึ้น รวมทั้งยังมีวัดนักบุญเปโตรซึ่งเป็นวัดใหญ่ และเก่าแก่วัดหนึ่งในอัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ ตั้งอยู่ไม่ไกลจากบริเวณที่จัดสรร แห่งนี้ คริสตชนที่อยู่ในบริเวณนี้ก็สามารถไปร่วมมิสซา และพิธีกรรมต่างๆ ได้ จึงมีคาทอลิกจาก วัดเซนต์หลุยส์ วัดอัสสัมชัญ วัดกาลหว่าร์ วัดสามเสน อำเภอขลุง จันทบุรี ราชบุรี อยุธยา ปทุมธานี นครราชสีมา และวัดอื่นๆ อีกหลายแห่งเข้ามาอยู่ในบริเวณนี้ ต่อมาก็มีบ้านนักบวชที่สร้างอยู่ในซอยนี้เช่นกันนั้นคือ บ้านคณะคามิเลี่ยน บ้านคณะธรรมทูตแห่งมารีนิรมล (O.M.I.) และบ้านซิสเตอร์คณะซาเลเซียน ดังนี้คริสตชนในซอย ศรีเสถียรจึงได้ไปร่วมมิสซาและพิธีกรรมต่างๆ ตามบ้านนักบวชเหล่านี้

อยู่มาเมื่อกลางปี พ.ศ.2533 คุณพ่อพิบูลย์ วิสิฐนนทชัย (ขณะนั้นเป็นอธิการบ้านเณรเล็กยอแซฟ) ได้เชิญคริสตชนที่อาศัยอยู่ในซอยศรีเสถียรมาประชุม พร้อมกันที่หอประชุมโรงเรียนยอแซฟอุปถัมภ์ เพราะคุณพ่อเห็นว่าคริสตชนที่นี้ต่างคนต่างอยู่มีรู้จักกัน คุณพ่อจึงมีความปรารถนาที่จะให้พวกเรามีการรวมกลุ่ม ทำกิจ กรรมร่วมกัน เพื่อพัฒนาชีวิตภายในของพวกเราให้ดีขึ้น ในการประชุมนั้นคุณพ่อให้ทุกคนเสนอความคิดเห็น พวกเราต่างมีความเห็นพ้องต้องกันว่า เราอยากให้มีวัด ในซอยของเรา คุณพ่อจึงแนะนำให้ พวกเรารวมตัวกันให้ได้ก่อนโดยให้มีการพบปะกันเพื่อสนทนาแลกเปลี่ยนความคิดเห็น และสวดภาวนาร่วมกัน ทุกอาทิตย์ คือ ทุกคืนวันเสาร์ โดยใช้สถานที่ของบ้านคณะคามิเลี่ยน ซึ่งก็ได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากคุณพ่อโจวันนี คอนตารี (ค.พ.ยอห์น) และยังได้ส่ง คุณพ่อสิรนนท์ สรรเพชร (ขณะนั้นเป็นบราเดอร์) มาร่วมประชุม และเป็นกำลังที่เข้มแข็งของกลุ่ม นอกจากนั้นคุณพ่อพิบูลย์ยังได้เชิญคุณพ่ออาเรนส์ บรูโน และบราเดอร์ (คณะ OMI) และซิสเตอร์คณะซาเลเซียน (โรงเรียนมารีย์อุปถัมภ์) เข้าร่วมประชุมด้วย พร้อมทั้งให้มีการสำรวจคริสตังในบริเวณซอยศรีเสถียรและใกล้เคียง ซึ่งพบว่าในเวลานั้นมีคริสตังอยู่ประมาณ 70 ครอบครัว

การรวมตัวครั้งนั้นคุณพ่อแนะนำให้พวกเราตั้งกลุ่มแม่บ้าน กลุ่มพ่อบ้าน กลุ่มเยาวชนเพื่อทำกิจกรรมต่างๆ เช่น กิจกรรมวันแม่ วันพ่อ วันเยาวชน วันผู้สูงอายุ นอกนั้นยังมีการสวดสายประคำตามบ้าน การแห่แม่พระ การเชิญพระกุมารไปตามบ้าน เพื่อสวดภาวนาร้องเพลงอวยพร ในเทศกาลพระคริสตสมภพและอื่นๆ ในการทำกิจกรรมต่างๆ ทางกลุ่มต้องขอใช้สถานที่จากบ้านคณะคามิลเลี่ยนบ้าง บ้านสวนยอแซฟบ้าง โรงเรียนมารีย์อุปถัมภ์บ้าง พวกเราจึงได้ปรารภกันว่าน่าจะมีสถานที่ หรือวัดของเราเอง เพื่อพวกเราจะได้ร่วมพิธีกรรม ทำกิจศรัทธา หรือทำกิจกรรมต่างๆ ได้อย่างเป็นกิจลักษณะให้ดียิ่งขึ้น และวิธีที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดที่จะช่วยพวกเราได้ก็คือ การสวดภาวนาขอจากพระด้วยความเชื่อและศรัทธาอย่างจริงจัง นี่คือจุดเริ่มต้นที่สำคัญ ทั้งนี้และทั้งนั้นผู้เขียนใคร่ขอกราบขอบพระคุณ คุณพ่อ บราเดอร ซิสเตอร์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งคุณพ่อพิบูลย์ ณ ที่นี้ด้วย ถ้าปราศจากพวกท่านแล้ว พวกเราคงเดินมาไม่ถึงจุดนี้แน่

แล้ววันที่สำคัญวันหนึ่งก็มาถึง เมื่อทางคณะธรรมทูตแห่งมารีนิรมล (O.M.I.)ได้จัดให้มีการเสกบ้านของคณะขึ้น โดยพระคุณเจ้าพระคาร์ดินัล มีชัย กิจบุญชู เป็นประธาน พวกเราก็ได้รับเชิญไปร่วมงาน และผู้เขียนก็ได้รับเกียรติให้เป็นผู้มอบกระเช้าผลไม้ถวายแด่พระคุณเจ้า โอกาสนั้นพระคุณเจ้าว่าพวกเราชาวศรีเสถียร จะมีหวังได้มีวัดของตนเองหรือไม่ พระคุณเจ้าได้กรุณาตอบว่า มีแน่ๆ แต่กำหนดแน่นอนไม่ได้ว่าเมื่อไหร่ แต่บัดนั้นเป็นต้นมาพวกเราก็มีความหวังว่าเราจะได้มีวัดของเราแน่นอน

เมื่อคุณพ่อพิบูลย์เห็นว่าพวกเราได้มีการรวมกลุ่มกันดีแล้ว จึงได้คอยๆ วางมือไป เพื่อให้พวกเราจัดการบริหารกลุ่มกันเอง คุณพ่อได้เน้นว่าจะต้องพึ่งตัวเอง ช่วยเหลือซึ่งกันและกันให้ได้จะยึดติดอยู่กับ พระสงฆ์ นักบวชองค์ใดองค์หนึ่งเป็นแกนนำตลอดไปไม่ได้ เพราะมีการสับเปลี่ยน โยกย้ายหน้าที่ ความรับผิดชอบอยู่ตามวาระ แล้วก็เป็นเช่นนั้นจริงๆ เมื่อคุณพ่อพิบูลย์ได้ย้ายไปรับหน้าที่ในกรุงเทพฯ อีกทั้งคุณพ่อ บราเดอร์และซิสเตอร์หลายท่าน ก็โยกย้ายกันไปในที่ต่างๆ กลุ่มก็ขาดแกนนำ กิจกรรมต่างๆ ก็ลดน้อยถอยลง จนไม่มีอะไรเหลือนอกจากความทรงจำ

ต่อมาชาวบ้านก็ได้รวมตัวกันโดยคุณพ่อไพรัช ศรีประเสริฐ เป็นผู้นำในครั้งนี้เป็นการรวมตัวครั้งที่สองพร้อมกับพี่น้องที่มิใช่คาทอลิก โดยมีจุดประสงค์เพื่อพัฒนาซอยศรีเสถียที่อยู่ในสภาพทรุดโทรม ด้วยการซ่อมแซมและปรับปรุงถนนสายหลัก ล้างและซ่อมท่อระบายน้ำ ติดไฟริมถนนสายหลักเพื่อให้แสงสว่างแก่ผู้ที่สัญจรไปมาในเวลาค่ำคืน ซึ่งนับได้ว่าเป็นการทำประโยชน์ให้กับสังคมซอยศรีเสถียร แต่เมื่องานนี้สำเร็จลุล่วงไปแล้วก็เป็นที่น่าเสียดายยิ่งที่กลุ่มคริสตชนซอยศรีเสถียรก็ขา ดการร่วมมือ และละเลยในการทำกิจกรรมอีกเช่นเคย

จากนั้นอีก 2-3 ปี ในบริเวณที่ดินของสังฆมณฑลตรงปากซอยซ้ายมือ (จากถนนเพชรเกษม) ได้มีการล้อมรั้วลวดหนาม ถมดิน และเริ่มสร้างอาคารช่วงเวลานั้นมีเสียงพูดต่างๆ กันไป บ้างว่าเป็นการสร้างสนามกีฬา บ้างว่าเป็นโรงเรียน บ้างว่าเป็นหอประชุม ช่างเถอะอะไรมันจะเกิดมันก็ต้องเกิดแต่ผู้เขียนเองมีความเชื่อและแน่ใจว่า คงต้องมีการก่อสร้างวัดขึ้นอย่างแน่นอน

แล้ววันที่ 16 กันยายน พ.ศ.2541 เพื่อนคนหนึ่งในกลุ่มของเรา ได้พาชายหนุ่มผู้หนึ่งซึ่งมีกริยามารยาทเป็นที่น่าเคารพนับถือ และมีใบหน้าอิ่มเอิบไปด้วยรอยยิ้มมาพบผู้เขียนที่บ้าน และแนะนำให้รู้จักว่า นี่คือ คุณพ่อเจ้าอาวาสวัดใหม่ วัดของเรา วัดที่กำลังสร้างอยู่ที่ปากซอยศรีเสถียรไง ผู้เขียนถึงกับอึ้งไปครู่หนึ่ง ด้วยความปิ ติยินดีว่า ความหวัง ความฝันของเราได้เป็นความจริงแล้ว วัดของเรา วัดของคริสตชนทุกคนเกิดขึ้นที่นี่แล้ว วัดพระเยซูเจ้าเสด็จขึ้นสวรรค์ วัดที่เกิดจากพลังแห่งการภาวนาวอนขอพระเป็นเจ้าด้วยความเชื่อศรัทธาของบรรดาพี่น้องคริสตชนทั้งหลายอย่างแท้จริง

เริ่มสร้าง 5 กรกฎาคม 2540

ทำพิธีเสก15 พฤษภาคม 2542

พระคาร์ดินัล ไมเกิ้ล มีชัย กิจบุญชู เป็นประธาน

คุณพ่อถนอมศักดิ์ เลื่อนประไพ ( 2000 -2002) ช่วยงานสังฆมณฑลนครสวรรค์

คุณพ่อพงษ์เกษม สังวาลย์เพ็ชร (2002 - 2004 ) เจ้าอาวาส

คุณพ่อสุรศักดิ์ อัมพาภรณ์ ( 10 พฤษภาคม 2004 - ปัจจุบัน ) เจ้าอาวาสองค์ปัจจุบัน

ช่วยงานอภิบาล
คุณพ่อสมเกียรติ ตรีนิกร

 

ตารางเวลาพิธีกรรม

พิธีกรรม วัน/เดือน เวลา ภาษา หมายเหตุ มิสซาเช้า (วันธรรมดา) จันทร์-ศุกร์ 06.30 น. ไทย   มิสซาเย็น (วันธรรมดา)          พิธีนพวาร (วันธรรมดา) เสาร์ 18.45 น. ไทย นพวารพระมารดานิจานุเคราะห์ มิสซาศุกร์ต้นเดือน ศุกร์ 6.30 น. ไทย   พิธีแห่แม่พระ         มิสซาที่ 1 (วันอาทิตย์) เสาร์ 19.00 น. ไทย 18.30 - 18.50 น. ฟังแก้บาป มิสซาที่ 2 (วันอาทิตย์) อาทิตย์ 09.00 น. ไทย 8.30 - 9.00 น. ฟังแก้บาป มิสซาที่ 3 (วันอาทิตย์)         มิสซาที่ 4 (วันอาทิตย์)         มิสซาที่ 5 (วันอาทิตย์)       มิสซาที่ 6 (วันอาทิตย์)         วันพุธรับเถ้า 28 ก.พ. 19.00 น. ไทย   การเดินรูป 14 ภาคในเทศกาลมหาพรต หลังมิสซา 19.00 น.  ไทย   วันพฤหัสศักดิ์สิทธิ์   19.00 น. ไทย   วันศุกร์ศักดิ์สิทธิ์   19.00 น. ไทย   วันเสาร์ศักดิ์สิทธิ์   19.00 น.  ไทย   มิสซาวันคริสตมาส (กลางคืน) 24 ธันวาคม 19.00 น. ไทย   มิสซาวันคริสตมาส (ตอนเช้า) 25 ธันวาคม 9.00 น. ไทย   มิสซาส่งท้ายปีเก่า 31 ธันวาคม 19.00 น. ไทย   มิสซาตอนรับปีใหม่ 1 มกราคม 9.00 น. ไทย   ฉลองวัด   10.00 น. ไทย   เสกสุสาน   09.00 น.   08.00 – 08.50 ฟังแก้บาป การเดินทาง ทางบก  สาย หมายเหตุ   รถโดยสารประจำทาง (สาย) 84     รถโดยสารปรับอากาศ (สาย) ปอ.33 และ ปอ.พ.12     ทางน้ำ     สาย

แผนที่วัด