III พระเยซูเจ้าทรงประกาศอาณาจักรสวรรค์
ก. เรื่องเล่า : การอัศจรรย์สิบประการ
พระเยซูเจ้าทรงรักษาคนโรคเรื้อน l พระเยซูเจ้าทรงรักษาผู้รับใช้ของนายร้อย พระเยซูเจ้าทรงรักษามารดาของภรรยาเปโตร
พระเยซูเจ้าทรงรักษาผู้ป่วยจำนวนมาก l ศิษย์ของพระเยซูเจ้าต้องอุทิศตนโดยไม่มีเงื่อนไข
พระเยซูเจ้าทรงทำให้พายุสงบ ชาวกาดาราผู้ถูกปีศาจสิง
8(1) เมื่อพระเยซูเจ้าเสด็จลงมาจากภูเขา ประชาชนจำนวนมากติดตามพระองค์
(2) ทันใดนั้น คนโรคเรื้อนคนหนึ่งมาเฝ้าพระองค์ กราบลงทูลว่า พระเจ้าข้า ถ้าพระองค์พอพระทัย ก็ทรงรักษาข้าพเจ้าให้หายได้
(3) พระองค์ทรงยื่นพระหัตถ์สัมผัสเขา ตรัสว่า เราพอใจ จงหายเถิด โรคเรื้อนก็หายไปทันที
(4) พระเยซูเจ้าตรัสกับเขาอีกว่าระวัง อย่าบอกให้ใครรู้เลย จงไปแสดงตนแก่สมณะและถวายเครื่องบูชาตามที่โมเสสกำหนด เพื่อเป็นพยานหลักฐานแก่คนทั้งหลาย
มธ 8:5-13 พระเยซูเจ้าทรงรักษาผู้รับใช้ของนายร้อย(5) เมื่อพระองค์เสด็จเข้าเมืองคาเปอรนาอุม นายร้อยคนหนึ่งเข้ามาเฝ้าพระองค์ ทูลอ้อนวอนว่า
(6) พระองค์เจ้าข้า ผู้รับใช้ของข้าพเจ้าเป็นอัมพาตนอนอยู่ที่บ้าน ต้องทรมานอย่างสาหัส
(7) พระเยซูเจ้าจึงตรัสกับเขาว่า เราจะไปรักษาเขาให้หาย
(8) แต่นายร้อยทูลตอบว่า พระองค์เจ้าข้า ข้าพเจ้าไม่สมควรให้พระองค์เสด็จเข้ามาในบ้านของข้าพเจ้า แต่ขอพระองค์ตรัสเพียงคำเดียวเท่านั้น ผู้รับใช้ของข้าพเจ้าก็จะหายจากโรค
(9) ข้าพเจ้าเป็นคนอยู่ใต้บังคับบัญชา แต่ยังมีทหารอยู่ใต้บังคับบัญชาด้วย ข้าพเจ้าสั่งทหารคนนี้ว่า ไป เขาก็ไป สั่งอีกคนหนึ่งว่า มา เขาก็มา ข้าพเจ้าสั่งผู้รับใช้ว่าทำนี่ เขาก็ทำ
(10) เมื่อพระเยซูเจ้าทรงได้ยินเช่นนี้ ทรงประหลาดพระทัย จึงตรัสแก่บรรดาผู้ติดตามว่า เราบอกความจริงแก่ท่านทั้งหลายว่า เรายังไม่เคยพบใครมีความเชื่อมากเช่นนี้ในอิสราเอลเลย
(11) เราบอกท่านทั้งหลายว่า คนจำนวนมากจะมาจากทิศตะวันออกและตะวันตก และจะนั่งร่วมโต๊ะกับอับราฮัม อิสอัคและยาโคบในอาณาจักรสวรรค์
(12) แต่บุตรแห่งอาณาจักรจะถูกขับไล่ออกไปในที่มืดข้างนอกที่นั่น จะมีแต่การร่ำไห้คร่ำครวญ และขบฟันด้วยความขุ่นเคือง
(13) แล้วพระเยซูเจ้าจึงตรัสกับนายร้อยว่า จงไปเถิด จงเป็นไปตามที่ท่านเชื่อนั้นเถิด ผู้รับใช้ของเขาก็หายจากโรคในเวลานั้นเอง
(14) เมื่อพระเยซูเจ้าเสด็จเข้าไปในบ้านของเปโตร ทรงเห็นมารดาของภรรยาเปโตรนอนป่วยเป็นไข้
(15) พระองค์จึงทรงจับมือนาง นางก็หายไข้ ลุกขึ้นและปรนนิบัติรับใช้พระองค์
มธ 8:16-17 พระเยซูเจ้าทรงรักษาผู้ป่วยจำนวนมาก(16) เย็นวันนั้น ประชาชนนำผู้ถูกปีศาจสิงจำนวนมากมาเฝ้าพระองค์ พระองค์ทรงขับปีศาจเหล่านี้ออกไปด้วยพระวาจา และทรงบำบัดรักษาผู้ป่วยทุกคน
(17) เพื่อให้พระวาจาที่ได้ตรัสไว้ทางประกาศกอิสยาห์เป็นความจริงว่า พระองค์ทรงรับเอาความอ่อนแอของเราไว้ และทรงแบกความเจ็บป่วยของเรา
มธ 8:18-22 ศิษย์ของพระเยซูเจ้าต้องอุทิศตนโดยไม่มีเงื่อนไข(18) พระเยซูเจ้าทรงเห็นประชาชนห้อมล้อมพระองค์ จึงทรงสั่งบรรดาศิษย์ให้ข้ามทะเลสาบไปอีกฝั่งหนึ่ง
(19) ธรรมาจารย์คนหนึ่งเข้ามาทูลว่า พระอาจารย์ ข้าพเจ้าอยากติดตามพระองค์ไปทุกแห่งที่พระองค์จะเสด็จ
(20) พระเยซูเจ้าจึงตรัสกับเขาว่า สุนัขจิ้งจอกยังมีโพรง นกในอากาศยังมีรัง แต่บุตรแห่งมนุษย์ไม่มีที่จะวางศีรษะ
(21) ศิษย์อีกคนหนึ่งทูลว่า พระองค์เจ้าข้า ขอทรงอนุญาตให้ข้าพเจ้าไปฝังศพบิดาของข้าพเจ้าเสียก่อน
(22) แต่พระเยซูเจ้าตรัสกับเขาว่า จงตามเรามา และปล่อยให้คนตายฝังคนตายของตนเถิด
มธ 8:23-27 พระเยซูเจ้าทรงทำให้พายุสงบ(23) พระเยซูเจ้าเสด็จลงเรือ บรรดาศิษย์ติดตามพระองค์ไปด้วย
(24) ทันใดนั้น เกิดพายุแรงกล้าในทะเลสาบ คลื่นสูงจนไม่เห็นเรือ แต่พระองค์บรรทมหลับ
(25) บรรดาศิษย์จึงเข้ามาปลุกพระองค์ ทูลว่า พระองค์เจ้าข้า ช่วยด้วยเถิด เรากำลังจะพินาศอยู่แล้ว
(26) พระองค์จึงตรัสกับเขาว่า ทำไมจึงตกใจกลัวเล่า ท่านช่างมีความเชื่อน้อยเหลือเกิน แล้วทรงลุกขึ้น บังคับลมและทะเล ท้องทะเลก็สงบราบเรียบ
(27) คนทั้งหลายต่างประหลาดใจ พูดว่า ท่านผู้นี้เป็นใครหนอ ลมและทะเลจึงยอมเชื่อฟังเช่นนี้
(28) พระเยซูเจ้าเสด็จข้ามฟากมาถึงดินแดนของชาวกาดาราผู้ถูกปีศาจสิงสองคนออกจากบริเวณหลุมศพมาเฝ้าพระองค์ ทั้งสองคนดุร้ายมากจนไม่มีใครเดินผ่านทางนั้นได้
(29) ทันใดนั้น ทั้งสองคนร้องตะโกนว่า ข้าแต่บุตรของพระเจ้า ท่านมายุ่งกับเราทำไม ท่านมาที่นี่เพื่อทรมานเราก่อนเวลาหรือ
(30) ไม่ไกลจากที่นั่นมีหมูฝูงใหญ่กำลังหากินอยู่
(31) พวกปีศาจจึงอ้อนวอนพระองค์ว่า ถ้าท่านขับไล่พวกเรา ขอได้ส่งเราเข้าไปในหมูฝูงนั้นเถิด
(32) พระองค์ตรัสกับมันว่า จงไปเถิด พวกปีศาจจึงออกไปสิงในหมูหมูทั้งฝูงต่างวิ่งกระโจนจากหน้าผาลงไปในทะเลสาบ จมน้ำตาย
(33) คนเลี้ยงหมูหนีเข้าไปในเมืองเล่าเรื่องทั้งหมดนี้และเรื่องผู้ถูกปีศาจสิงด้วย
(34) คนทั้งเมืองต่างออกมาเฝ้าพระเยซูเจ้า เมื่อเห็นพระองค์ ก็ทูลขอพระองค์ให้เสด็จออกไปจากเขตแดนของเขา