VII พระทรมาน และการกลับคืนพระชนมชีพ
การวางแผนกำจัดพระเยซูเจ้า l การเจิมที่หมู่บ้านเบธานี l ยูดาสทรยศต่อพระเยซูเจ้า l
การเตรียมงานเลี้ยงปัสกา l พระเยซูเจ้าทรงกล่าวถึงการทรยศของยูดาส l พระเยซูเจ้าทรงตั้งศีลมหาสนิท l
พระเยซูเจ้าทรงทำนายว่าเปโตรจะปฏิเสธพระองค์ l ภายในสวนเกทเสมนี l พระเยซูเจ้าทรงถูกจับกุม l
พระเยซูเจ้าทรงถูกพิจารณาคดีในสภาสูงของชาวยิว l เปโตรปฏิเสธพระเยซูเจ้า l
VII พระทรมาน และการกลับคืนพระชนมชีพ
มธ 26:1-5 การวางแผนกำจัดพระเยซูเจ้า
26(1) เมื่อพระเยซูเจ้าตรัสพระวาจาเหล่านี้แล้ว พระองค์ตรัสแก่บรรดาศิษย์ว่า
(2) ท่านทั้งหลายรู้แล้วว่า อีกสองวันจะถึงวันปัสกา และบุตรแห่งมนุษย์จะถูกมอบให้ศัตรูนำไปตรึงกางเขน
(3) เวลานั้น บรรดาหัวหน้าสมณะและผู้อาวุโสของประชาชนมาชุมนุมกันในสำนักของมหาสมณะชื่อ คายาฟาส
(4) และคิดหาอุบายเพื่อจับกุมพระเยซูเจ้า จะได้ฆ่าเสีย
(5) เขาพูดกันว่า อย่าทำการนี้ในวันฉลองเลย เพราะประชาชนจะก่อการจลาจล
มธ 26:6-13 การเจิมที่หมู่บ้านเบธานี
(6) ขณะที่พระเยซูเจ้าประทับอยู่ที่หมู่บ้านเบธานีในบ้านของซีโมนที่เคยเป็นโรคเรื้อน
(7) หญิงคนหนึ่งถือขวดหินขาวบรรจุน้ำมันหอมราคาแพงเข้ามา และเทน้ำมันหอมลงบนพระเศียรขณะที่พระองค์กำลังประทับที่โต๊ะอาหาร
(8) บรรดาศิษย์เห็นดังนั้น จึงไม่พอใจกล่าวว่า ทำไมทำให้น้ำมันหอมเสียไปเปล่า ๆ
(9) น้ำมันหอมนี้อาจจะขายได้เงินมาก แล้วเอาไปแจกให้คนยากจน
(10) พระเยซูเจ้าทรงทราบ จึงตรัสว่า ท่านทำให้นางยุ่งยากใจทำไม นางได้ทำกิจการดีต่อเรา
(11) ท่านจะมีคนยากจนอยู่กับท่านเสมอ แต่ท่านจะไม่มีเราอยู่กับท่านเสมอไป
(12) นางเทน้ำมันหอมนี้ชโลมกายของเราเป็นการเตรียมไว้สำหรับฝังศพ
(13) เราบอกความจริงแก่ท่านทั้งหลายว่า ที่ใดในโลกที่มีการประกาศข่าวดี จะมีการกล่าวถึงสิ่งที่นางได้ทำเพื่อเป็นการระลึกถึงนาง
มธ 26:14-16 ยูดาสทรยศต่อพระเยซูเจ้า
(14) คนหนึ่งในบรรดาอัครสาวกสิบสองคน ชื่อ ยูดาส อิสคาริโอท ไปพบบรรดาหัวหน้าสมณะ ถามว่า
(15) ถ้าข้าพเจ้ามอบเขาให้ท่าน ท่านจะให้อะไรแก่ข้าพเจ้าบรรดาหัวหน้าสมณะจ่ายเงินสามสิบเหรียญให้แก่ยูดาส
(16) ตั้งแต่นั้นมา ยูดาสก็หาโอกาสที่จะมอบพระองค์
มธ 26:17-19 การเตรียมงานเลี้ยงปัสกา
(17) วันแรกของเทศกาลกินขนมปังไร้เชื้อบรรดาศิษย์เข้ามาทูลถามพระเยซูเจ้าว่า พระองค์มีพระประสงค์ให้เราจัดเตรียมการเลี้ยงปัสกาที่ไหน
(18) พระองค์ตรัสว่าจงเข้าไปในกรุง ไปพบชายคนหนึ่ง บอกเขาว่า พระอาจารย์บอกว่าเวลากำหนดของเราใกล้เข้ามาแล้ว เราจะกินปัสกากับศิษย์ของเราที่บ้านของท่าน
(19) บรรดาศิษย์ก็กระทำตามที่พระเยซูเจ้าทรงบัญชา และจัดเตรียมปัสกา
มธ 26:20-25 พระเยซูเจ้าทรงกล่าวถึงการทรยศของยูดาส
(20) ครั้นถึงเวลาค่ำ พระองค์ประทับร่วมโต๊ะกับศิษย์ทั้งสิบสองคน
(21) ขณะที่ทุกคนกำลังกินอาหารพร้อมกับพระเยซูเจ้าอยู่นั้นพระองค์ตรัสว่า เราบอกความจริงแก่ท่านทั้งหลายว่า คนหนึ่งในที่นี้จะทรยศต่อเรา
(22) บรรดาอัครสาวกรู้สึกสลดใจและทูลถามพระองค์ทีละคนว่า เป็นข้าพเจ้าหรือ พระเจ้าข้า
(23) พระองค์ตรัสตอบว่า คนที่จิ้มอาหารในชามเดียวกันกับเรานี่แหละ จะทรยศต่อเรา
(24) บุตรแห่งมนุษย์จะจากไปตามที่มีเขียนเกี่ยวกับพระองค์ในพระคัมภีร์ วิบัติจงเกิดแก่คนที่ทรยศต่อบุตรแห่งมนุษย์ถ้าเขาไม่ได้เกิดมาก็จะดีกว่า
(25) ยูดาสผู้ทรยศต่อพระองค์ ทูลถามว่า เป็นข้าพเจ้าหรือ พระอาจารย์ พระองค์ตรัสตอบว่า ใช่แล้ว
มธ 26:26-29 พระเยซูเจ้าทรงตั้งศีลมหาสนิท
(26) ขณะที่ทุกคนกำลังกินอาหารอยู่นั้นพระเยซูเจ้าทรงหยิบขนมปัง ตรัสถวายพระพร ทรงบิขนมปังประทานให้บรรดาศิษย์ ตรัสว่า จงรับไปกินเถิด นี่เป็นกายของเรา
(27) แล้วพระองค์ทรงหยิบถ้วย ตรัสขอบพระคุณประทานให้เขาเหล่านั้น ตรัสว่าทุกท่านจงดื่มจากถ้วยนี้เถิด
(28) นี่เป็นโลหิตของเรา โลหิตแห่งพันธสัญญาที่หลั่งออกมาสำหรับคนจำนวนมาก
(29) เราบอกท่านทั้งหลายว่า แต่นี้ไปเราจะไม่ดื่มน้ำจากผลองุ่นอีก จนกว่าจะถึงวันที่เราจะดื่มเหล้าองุ่นใหม่กับท่านในพระอาณาจักรของพระบิดาของเรา
มธ 26:30-35 พระเยซูเจ้าทรงทำนายว่าเปโตรจะปฏิเสธพระองค์
(30) เมื่อขับร้องเพลงสดุดีแล้วทุกคนออกจากห้องเพื่อไปยังภูเขามะกอกเทศ
(31) แล้วพระเยซูเจ้าตรัสแก่บรรดาศิษย์ว่า ทุกท่านจะทอดทิ้งเราในคืนนี้เพราะมีเขียนไว้ในพระคัมภีร์ว่า เราจะตีผู้เลี้ยงแกะ และแกะจะกระจัดกระจายไป
(32) แต่เมื่อเรากลับคืนชีพแล้ว เราจะไปยังแคว้นกาลิลีก่อนหน้าท่าน
(33) เปโตร ทูลตอบว่า แม้ทุกคนจะทอดทิ้งพระองค์ ข้าพเจ้าก็จะไม่ทอดทิ้งพระองค์เลย
(34) พระเยซูเจ้าตรัสกับเขาว่า เราบอกความจริงแก่ท่านว่า ในคืนนี้เอง ก่อนไก่ขัน ท่านจะปฏิเสธเราสามครั้ง
(35) เปโตรทูลว่า ถึงแม้ข้าพเจ้าจะต้องตายพร้อมกับพระองค์ ข้าพเจ้าก็จะไม่ปฏิเสธพระองค์เลยศิษย์ทุกคนต่างกล่าวเช่นเดียวกัน
(36) เมื่อพระเยซูเจ้าเสด็จมาพร้อมกับบรรดาศิษย์ถึงสถานที่แห่งหนึ่งชื่อเกทเสมนีพระองค์ตรัสแก่เขาเหล่านั้นว่า จงนั่งอยู่ที่นี่ ขณะที่เราไปอธิษฐานภาวนาที่โน่น
(37) แล้วทรงพาเปโตรและบุตรทั้งสองของเศเบดีไปด้วย พระองค์ทรงรู้สึกเศร้าและสลดพระทัยอย่างยิ่ง
(38) จึงตรัสแก่เขาทั้งสามคนว่า ใจเราเป็นทุกข์แทบสิ้นชีวิตจงอยู่ที่นี่และตื่นเฝ้ากับเราเถิด
(39) แล้วพระองค์ทรงพระดำเนินไปข้างหน้าอีกเล็กน้อย ทรงซบพระพักตร์ลงกับพื้นดิน อธิษฐานภาวนาว่า พระบิดาเจ้าข้า ถ้าเป็นไปได้ ขอให้ถ้วยนี้พ้นข้าพเจ้าไปเถิด ถ้าเป็นไปไม่ได้ ก็ขออย่าให้เป็นไปตามใจข้าพเจ้า แต่ให้เป็นไปตามพระประสงค์ของพระองค์เถิด
(40) พระองค์เสด็จกลับมาพบบรรดาศิษย์ ทรงพบเขาเหล่านั้นกำลังหลับอยู่ จึงตรัสกับเปโตรว่า ท่านไม่ตื่นเฝ้าอยู่กับเราสักหนึ่งชั่วโมงไม่ได้หรือ
(41) จงตื่นเฝ้าและอธิษฐานภาวนาเพื่อจะได้ไม่เข้าสู่การทดลอง จิตใจพร้อมแล้วก็จริง แต่เนื้อหนังอ่อนกำลัง
(42) พระองค์เสด็จไปอีกครั้งหนึ่ง ทรงอธิษฐานภาวนาว่า พระบิดาเจ้าข้า ถ้าข้าพเจ้าต้องดื่มจากถ้วยนี้โดยหลีกเลี่ยงมิได้แล้ว ขอให้เป็นไปตามพระประสงค์ของพระองค์เถิด
(43) ครั้นเสด็จกลับมาก็ทรงพบเขาหลับอยู่อีก เพราะนัยน์ตาลืมไม่ขึ้น
(44) พระองค์จึงเสด็จจากเขาทั้งสามคน ไปอธิษฐานภาวนาอย่างเดียวกันเป็นครั้งที่สาม
(45) แล้วเสด็จกลับมาพบเขา ตรัสว่า เดี๋ยวนี้ ท่านหลับต่อไปและพักผ่อนได้เวลาที่บุตรแห่งมนุษย์จะต้องถูกมอบในเงื้อมมือของคนบาปมาถึงแล้ว (46) จงลุกขึ้น ไปกันเถิด ผู้ทรยศต่อเราอยู่ที่นี่แล้ว
มธ 26:47-56 พระเยซูเจ้าทรงถูกจับกุม
(47) ขณะที่พระองค์กำลังตรัสอยู่นั้น ยูดาสซึ่งเป็นคนหนึ่งในบรรดาอัครสาวกสิบสองคนมาถึงพร้อมกับคนจำนวนมาก ถือดาบและไม้ตะบองเป็นอาวุธ บรรดาหัวหน้าสมณะและผู้อาวุโสของประชาชนส่งพวกนี้มา
(48) ผู้ทรยศต่อพระองค์ให้สัญญาณแก่คนเหล่านี้ว่า ข้าพเจ้าจูบผู้ใด ก็เป็นผู้นั้นแหละ จับกุมเขาไว้เถิด
(49) ทันใดนั้น ยูดาสก็เข้ามาหาพระเยซูเจ้า ทูลว่า สวัสดี พระอาจารย์ แล้วจูบพระองค์
(50) พระเยซูเจ้าตรัสกับเขาว่า เพื่อนเอ๋ย จงทำอย่างที่ตั้งใจจะทำเถิดเวลานั้น คนเหล่านั้นต่างกรูกันเข้ากับกุมพระองค์
(51) ขณะนั้น คนหนึ่งซึ่งอยู่กับพระเยซูเจ้าก็ชักดาบฟันผู้รับใช้คนหนึ่งของมหาสมณะ ใบหูขาด
(52) พระเยซูเจ้าจึงตรัสว่า เอาดาบใส่ฝักเสีย เพราะทุกคนที่ใช้ดาบ ก็จะต้องพินาศด้วยดาบ
(53) ท่านคิดว่า เราจะอ้อนวอนพระบิดาเจ้าให้ส่งทูตสวรรค์มากกว่าสิบสองกองพลมาช่วยเราบัดนี้มิได้หรือ (54) แล้วพระคัมภีร์ที่เขียนว่าจะต้องเป็นเช่นนี้ จะเป็นความจริงได้อย่างไรเล่า
(55) ขณะนั้นพระเยซูเจ้าตรัสแก่ประชาชนว่าเราเป็นโจรหรือท่านทั้งหลายจึงถือดาบถือไม้ตะบองมาจับกุมเรา เรานั่งสอนในพระวิหารทุกวัน ท่านก็มิได้จับกุมเรา
(56) เหตุการณ์ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นเพื่อให้ข้อเขียนของบรรดาประกาศกเป็นความจริง หลังจากนั้นศิษย์ทุกคนละทิ้งพระองค์และหนีไป
มธ 26:57-68 พระเยซูเจ้าทรงถูกพิจารณาคดีในสภาสูงของชาวยิว
(57) บรรดาผู้ที่จับกุมพระเยซูเจ้านำพระองค์ไปยังบ้านของคายาฟาสมหาสมณะ บรรดาธรรมาจารย์และผู้อาวุโสชุมนุมกันที่นั่น
(58) ส่วนเปโตรติดตามพระองค์ไปห่าง ๆจนเข้าถึงภายในลานบ้านของมหาสมณะ นั่งอยู่กับบรรดาผู้รับใช้ คอยดูว่าเหตุการณ์จะจบลงอย่างไร
(59) บรรดาหัวหน้าสมณะและสมาชิกสภาสูงทุกคนพยายามหาพยานเท็จมา กล่าวหาพระเยซูเจ้า เพื่อจะประหารชีวิตพระองค์ให้ได้
(60) แต่เขาหาหลักฐานไม่ได้ แม้ว่าจะมีพยานเท็จหลายคน ในที่สุด มีคนสองคนมาให้การว่า
(61) คนคนนี้ได้พูดว่า ฉันมีอำนาจจะทำลายพระวิหารของพระเจ้า และสร้างขึ้นใหม่ได้ภายในสามวัน
(62) มหาสมณะจึงลุกขึ้นถามพระองค์ว่า ท่านไม่ตอบอะไรหรือ พยานเหล่านี้ตั้งข้อ กล่าวหาอะไรปรักปรำท่าน
(63) แต่พระเยซูเจ้าทรงนิ่ง มหาสมณะจึงพูดกับพระองค์ว่า เราสั่งให้ท่านสาบานโดยอ้างพระเจ้าผู้ทรงชีวิต จงตอบเราว่าท่านเป็นพระคริสต์ พระบุตรของพระเจ้าผู้ทรงชีวิตหรือ
(64) พระเยซูเจ้าตรัสตอบว่า ใช่แล้ว แต่ยังมีมากกว่านั้นอีกเราบอกความจริงแก่ท่านทั้งหลายว่า ตั้งแต่บัดนี้ไปท่านจะเห็นบุตรแห่งมนุษย์ประทับ ณ เบื้องขวาของพระผู้ทรงอานุภาพและจะเสด็จมาพร้อมกับหมู่เมฆบนท้องฟ้า
(65) มหาสมณะจึงฉีกเสื้อของตนแล้วกล่าวว่า เขาพูดดูหมิ่นพระเจ้าเราจะต้องการพยานอะไรอีกเล่า ท่านทั้งหลายต่างได้ยินเขาพูดดูหมิ่นพระเจ้าแล้ว
(66) ท่านคิดอย่างไร ทุกคนตอบว่า เขาสมควรต้องตาย
(67) แล้วพวกนั้นก็พากันถ่มน้ำลายรดพระพักตร์ของพระองค์ ชกต่อยพระองค์ บางคนตบตีพระองค์ กล่าวว่า
(68) พระคริสต์จงทำนายซิว่า ใครตบหน้าเจ้า
มธ 26:69-75 เปโตรปฏิเสธพระเยซูเจ้า
(69) ขณะที่เปโตรนั่งอยู่ที่ลานข้างนอก หญิงรับใช้คนหนึ่งเข้ามาพูดว่า ท่านก็เคยอยู่กับเยซู ชาวกาลิลีด้วย
(70) แต่เปโตรปฏิเสธต่อหน้าคนทั้งหลายว่า ฉันไม่รู้ว่าท่านพูดเรื่องอะไร
(71) เมื่อเปโตรออกไปที่ประตู หญิงรับใช้อีกคนหนึ่งเห็นเข้าจึงพูดกับคนที่อยู่ที่นั่นว่า คนนี้เคยอยู่กับเยซู ชาวนาซาเร็ธด้วย
(72) เปโตรปฏิเสธอีก ทั้งสาบานว่า ฉันไม่เคยรู้จักคนนั้นเลย
(73) ต่อมาไม่นาน คนที่อยู่ที่นั่นเข้ามาพูดกับเปโตรว่าท่านเป็นคนหนึ่งในพวกนั้นแน่ ๆ ฟังสำเนียงก็รู้แล้ว
(74) แต่เปโตรเริ่มสาบานอย่างแข็งขันว่า ฉันไม่รู้จักคนนั้น ทันใดไก่ก็ขัน
(75) เปโตรจึงระลึกถึงคำที่พระเยซูเจ้าตรัสไว้ว่า ก่อนไก่จะขัน ท่านจะปฏิเสธเราสามครั้ง เขาจึงออกไปข้างนอก ร้องไห้อย่างขมขื่น