VI อาณาจักรสวรรค์อยู่ใกล้แล้ว
ก. เรื่องเล่า
คำถามเรื่องการหย่าร้าง l การสมัครใจไม่แต่งงาน l พระเยซูเจ้าและเด็กเล็ก ๆ l
เศรษฐีหนุ่ม l อันตรายจากทรัพย์สมบัติ l รางวัลของการสละทุกสิ่ง l
มธ 19:1-9 คำถามเรื่องการหย่าร้าง
19(1) เมื่อพระเยซูเจ้าตรัสเรื่องนี้จบแล้ว จึงเสด็จออกจากแคว้นกาลิลีเข้าไปในแคว้นยูเดีย อีกฟากหนึ่งของแม่น้ำจอร์แดน
(2) ประชาชนจำนวนมากติดตามพระองค์ พระองค์ทรงรักษาผู้ป่วยที่นั่น
(3) ชาวฟาริสีบางคนเข้ามาเพื่อจับผิดพระองค์ ทูลถามว่า เป็นการถูกต้องหรือไม่ ที่ชายจะหย่าร้างกับภรรยาเนื่องด้วยเหตุใดก็ตาม
(4) พระองค์ทรงตอบว่า ท่านไม่ได้อ่านพระคัมภีร์หรือว่าเมื่อแรกนั้นพระผู้สร้างทรงสร้างมนุษย์ให้เป็นชายและหญิง (5) และตรัสว่า ดังนี้ ชายจะละบิดามารดาไปสนิทอยู่กับภรรยาของตนและชายหญิงจะเป็นเนื้อเดียวกัน (6) ดังนี้ เขาจึงไม่เป็นสองอีกต่อไป แต่เป็นเนื้อเดียวกัน ฉะนั้น สิ่งที่พระเจ้าทรงรวมกันไว้ มนุษย์อย่าได้แยกเลย
(7) ชาวฟาริสีจึงทูลถามว่า แล้วทำไมโมเสสจึงสั่งให้ชายทำหนังสือหย่าร้างแล้วหย่าร้างได้เล่า
(8) พระองค์ตรัสว่า เพราะใจดื้อหยาบกระด้างของท่านโมเสสจึงยอมอนุญาตให้หย่าร้างได้ แต่เมื่อแรกเริ่มนั้น หาเป็นเช่นนี้ไม่
(9) เราบอกท่านทั้งหลายว่า ผู้ใดหย่าร้างภรรยาและแต่งงานกับอีกคนหนึ่ง เขาก็ทำผิดประเวณี เว้นแต่ในกรณีแต่งงานไม่ถูกต้อง
มธ 19:10-12 การสมัครใจไม่แต่งงาน
(10) บรรดาศิษย์ทูลพระองค์ว่า ถ้าสภาพของสามีกับภรรยาเป็นเช่นนี้ ก็ไม่ควรจะแต่งงานเลย
(11) พระองค์ตรัสว่า ไม่ใช่ทุกคนเข้าใจคำสอนนี้ คนที่เข้าใจคือคนที่พระเจ้าประทานให้
(12) เพราะว่า บางคนเป็นขันทีตั้งแต่อยู่ในครรภ์มารดา บางคนถูกมนุษย์ทำให้เป็นขันที และบางคนทำตนเป็นขันทีเพราะเห็นแก่อาณาจักรสวรรค์ผู้ที่เข้าใจได้ ก็จงเข้าใจเถิด
มธ 19:13-15 พระเยซูเจ้าและเด็กเล็ก ๆ
(13) ขณะนั้น มีผู้นำเด็กเล็ก ๆ มาให้พระองค์ทรงปกพระหัตถ์อวยพร แต่บรรดาศิษย์กลับดุว่าคนเหล่านั้น
(14) พระเยซูเจ้าตรัสกับเขาว่า ปล่อยให้เด็กเล็ก ๆ มาหาเราเถิด อย่าห้ามเลย เพราะอาณาจักรสวรรค์เป็นของคนที่เหมือนเด็กเหล่านี้
(15) พระองค์ทรงปกพระหัตถ์ให้เด็กเหล่านั้น แล้วจึงเสด็จไปจากที่นั่น
(16) ชายคนหนึ่งมาเฝ้าพระองค์ทูลถามว่า พระอาจารย์ข้าพเจ้าต้องทำความดีอะไรเพื่อจะมีชีวิตนิรันดร
(17) พระองค์ตรัสกับเขาว่า เหตุใดจึงถามเราถึงความดี ผู้ทรงความดีมีแต่ผู้เดียวเท่านั้นถ้าท่านอยากเข้าสู่ชีวิตนิรันดร ก็จงปฏิบัติตามบทบัญญัติเถิด
(18) เขาทูลถามว่า บทบัญญัติข้อใด พระเยซูเจ้าตรัสตอบว่า อย่าฆ่าคนอย่าล่วงประเวณี อย่าลักขโมย อย่าเป็นพยานเท็จ
(19) จงนับถือบิดามารดา จงรักผู้อื่นเหมือนรักตนเอง
(20) ชายหนุ่มผู้นั้นทูลถามว่า ข้าพเจ้าปฏิบัติตามบทบัญญัติเหล่านี้ทุกข้อแล้วยังขาดอะไรอีกหรือ
(21) พระเยซูเจ้าตรัสตอบเขาว่า ถ้าท่านอยากเป็นคนดีอย่างสมบูรณ์จงไปขายทุกสิ่งที่มี มอบเงินให้คนยากจน และท่านจะมีขุมทรัพย์ในสวรรค์ แล้วจงติดตามเรามาเถิด
(22) เมื่อได้ยินพระวาจานี้ ชายหนุ่มผู้นั้นจากไปด้วยความทุกข์ เพราะเขามีทรัพย์สมบัติมากมาย
มธ 19:23-26 อันตรายจากทรัพย์สมบัติ
(23) พระเยซูเจ้าตรัสแก่บรรดาศิษย์ว่า เราบอกความจริงแก่ท่านทั้งหลายว่า คนมั่งมีจะเข้าสู่อาณาจักรสวรรค์ได้ยาก
(24) เราบอกท่านอีกว่า อูฐจะลอดรูเข็ม ยังง่ายกว่าคนมั่งมีเข้าสู่อาณาจักรสวรรค์
(25) เมื่อบรรดาศิษย์ได้ยินเช่นนี้ ต่างรู้สึกประหลาดใจมาก จึงทูลถามว่า แล้วดังนี้ ใครเล่าจะรอดพ้นได้
(26) พระเยซูเจ้าทอดพระเนตรบรรดาศิษย์ แล้วตรัสว่า สำหรับมนุษย์เป็นไปไม่ได้ แต่สำหรับพระเจ้า ทุกอย่างเป็นไปได้
มธ 19:27-30 รางวัลของการสละทุกสิ่ง
(27) เปโตรจึงทูลถามว่า ข้าพเจ้าทั้งหลายสละทุกสิ่งและติดตามพระองค์แล้ว จะได้อะไรบ้าง
(28) พระเยซูเจ้าตรัสตอบว่า เราบอกความจริงแก่ท่านทั้งหลายว่า ในโลกใหม่เมื่อบุตรแห่งมนุษย์จะประทับเหนือพระที่นั่งอันรุ่งโรจน์ ท่านทั้งหลายที่ติดตามเรา ก็จะนั่งบนบัลลังก์ทั้งสิบสองบัลลังก์ เพื่อพิพากษาตระกูลอิสราเอลทั้งสิบสองตระกูลด้วย
(29) และผู้ใดที่สละบ้านเรือน พี่น้องชายหญิง บิดามารดา บุตร ไร่นาเพราะเห็นแก่เรา ก็จะได้รับตอบแทนร้อยเท่า และจะได้รับชีวิตนิรันดรเป็นมรดกด้วย
(30) หลายคนที่เป็นกลุ่มแรกจะกลับกลายเป็นกลุ่มสุดท้าย และกลุ่มสุดท้ายจะกลับกลายเป็นกลุ่มแรก