พระเยซูเจ้าทรงสำแดงพระองค์อย่างรุ่งเรือง l คำถามเกี่ยวกับประกาศกเอลียาห์ l พระเยซูเจ้าทรงรักษาคนถูกปีศาจสิง l
พระเยซูเจ้าทรงทำนายเรื่องพระทรมานเป็นครั้งที่สอง l พระเยซูเจ้าและเปโตรเสียภาษีบำรุงพระวิหาร
มธ 17:1-8 พระเยซูเจ้าทรงสำแดงพระองค์อย่างรุ่งเรือง
(1) ต่อมาอีกหกวัน พระเยซูเจ้าทรงพาเปโตร ยากอบ และยอห์นน้องชายไปบนภูเขาสูงที่ปราศจากผู้คน
(2) แล้วพระวรกายของพระองค์ก็เปลี่ยนไปต่อหน้าเขา พระพักตร์เปล่งรัศมีดุจดวงอาทิตย์ ฉลองพระองค์กลับมีสีขาวดุจแสงสว่าง
(3) โมเสสและประกาศกเอลียาห์สำแดงตนสนทนาอยู่กับพระองค์
(4) เปโตรจึงทูลพระเยซูเจ้าว่า พระเจ้าข้า ที่นี่สบายน่าอยู่จริง ๆ ถ้าพระองค์มีพระประสงค์ ข้าพเจ้าจะสร้างเพิงขึ้นสามหลัง หลังหนึ่งสำหรับพระองค์ หลังหนึ่งสำหรับโมเสส อีกหลังหนึ่งสำหรับเอลียาห์
(5) ขณะที่เปโตรกำลังพูดอยู่นั้น มีเมฆสว่างจ้าก้อนหนึ่งปกคลุมพวกเขาไว้ เสียงหนึ่งดังจากเมฆนั้นว่า ท่านผู้นี้เป็นบุตรสุดที่รักของเรา เราพึงพอใจยิ่งนัก จงฟังท่านเถิด
(6) เมื่อได้ยินดังนั้น ศิษย์ทั้งสามคนซบหน้าลงกับพื้นดิน มีความกลัวอย่างยิ่ง
(7) พระเยซูเจ้าเสด็จเข้ามาใกล้ ทรงสัมผัสเขา ตรัสว่า จงลุกขึ้นเถิด อย่ากลัวเลย
(8) เมื่อเงยหน้าขึ้น เขาไม่เห็นผู้ใด นอกจากพระเยซูเจ้าเท่านั้น
มธ 17:9-13 คำถามเกี่ยวกับประกาศกเอลียาห์
(9) ขณะที่กำลังลงจากภูเขา พระเยซูเจ้าทรงกำชับศิษย์ทั้งสามคนว่า อย่าเล่านิมิตที่ได้เห็นนี้ให้ผู้ใดฟัง จนกว่าบุตรแห่งมนุษย์จะกลับคืนชีพจากบรรดาผู้ตาย
(10) บรรดาศิษย์ทูลถามพระองค์ว่า เหตุใดบรรดาธรรมาจารย์จึงกล่าวว่า เอลียาห์ต้องมาก่อน
(11) พระองค์ตรัสตอบว่า เอลียาห์จะมาและจะจัดทุกสิ่งให้อยู่ในสภาพเดิม
(12) เราบอกท่านทั้งหลายว่า เอลียาห์ได้มาแล้ว แต่ประชาชนไม่รู้จักและกระทำต่อท่านตามใจชอบ บุตรแห่งมนุษย์จะต้องรับการทรมานจากประชาชนเช่นเดียวกัน
(13) บรรดาศิษย์จึงเข้าใจว่า พระองค์ตรัสกับเขาถึงยอห์นผู้ทำพิธีล้าง
มธ 17:14-21 พระเยซูเจ้าทรงรักษาคนถูกปีศาจสิง
(14) เมื่อพระเยซูเจ้าเสด็จพร้อมกับศิษย์ทั้งสามคนมาพบประชาชน ชายผู้หนึ่งเข้ามาเฝ้าพระองค์ คุกเข่าลงทูลว่า
(15) พระเจ้าข้า โปรดสงสารลูกชายของข้าพเจ้าเถิดเขาเป็นโรคลมชัก ทนทรมานมาก เคยตกไฟตกน้ำหลายครั้ง
(16) ข้าพเจ้าพาเขามาหาศิษย์ของพระองค์ แต่เขารักษาให้หายไม่ได้
(17) พระเยซูเจ้าตรัสตอบว่า คนหัวดื้อเชื่อยาก และชั่วร้าย เราจะต้องอยู่กับพวกท่านอีกนานเท่าใด จะต้องทนพวกท่านอีกนานเท่าใด พาเด็กมาพบเราที่นี่เถิด
(18) พระเยซูเจ้าทรงขู่ปีศาจ มันจึงออกไปจากเด็ก เด็กก็หายเป็นปกติตั้งแต่นั้น
(19) บรรดาศิษย์จึงเข้าเฝ้าพระเยซูเจ้าเป็นการส่วนตัว ทูลถามว่า ทำไมพวกเราจึงขับไล่มันไม่ได้
(20) พระองค์ตรัสว่า เพราะท่านมีความเชื่อน้อยเราบอกความจริงแก่ท่านทั้งหลายว่า ถ้าท่านมีความเชื่อสักเท่าเมล็ดมัสตาร์ด แล้วพูดกับภูเขานี้ว่า จงย้ายจากที่นี่ ไปที่โน่น มันก็จะย้ายไป และไม่มีอะไรที่ท่านจะทำไม่ได้
(21)
มธ 17:22-23 พระเยซูเจ้าทรงทำนายเรื่องพระทรมานเป็นครั้งที่สอง(22) เมื่อบรรดาศิษย์ชุมนุมอยู่กับพระเยซูเจ้าในแคว้นกาลิลี พระองค์ตรัสแก่เขาว่า บุตรแห่งมนุษย์จะถูกมอบในเงื้อมมือของคนทั้งหลาย
(23) และถูกประหารชีวิต แต่ในวันที่สาม บุตรแห่งมนุษย์จะกลับคืนชีพ บรรดาศิษย์รู้สึกเป็นทุกข์ยิ่งนัก
มธ 17:24-27 พระเยซูเจ้าและเปโตรเสียภาษีบำรุงพระวิหาร
(24) เมื่อพระเยซูเจ้าเสด็จมาถึงเมืองคาเปอรนาอุมพร้อมกับบรรดาศิษย์ ผู้เก็บภาษีบำรุงพระวิหารเข้ามาหาเปโตร ถามว่า อาจารย์ของท่านไม่เสียเงินบำรุงพระวิหารหรือ
(25) เปโตรตอบว่า เสียซิ เมื่อเปโตรเข้าไปในบ้าน พระเยซูเจ้าตรัสกับเขาก่อนว่าซีโมน ท่านมีความเห็นอย่างไร กษัตริย์ในโลกนี้ทรงเก็บภาษีจากใคร จากโอรสธิดาหรือจากคนอื่น
(26) เปโตรทูลตอบว่า จากคนอื่น พระเยซูเจ้าจึงตรัสว่า ถ้าเช่นนั้นโอรสธิดาย่อมได้รับการยกเว้น
(27) แต่เพื่อมิให้ใครตำหนิเรา ท่านจงไปที่ทะเล หย่อนเบ็ดลงไป จับปลาตัวแรกที่ตกได้ เปิดปากปลา ท่านจะพบเงินหนึ่งเหรียญจงนำเงินนั้นไปเสียภาษีเพื่อเราและท่านเถิด