พระตรีเอกภาพ I ประวัติพระเยซูเจ้าI ประวัติพระนางมารีอาI นักบุญ I รูปเคารพ Iเป้าหมายในชีวิตคริสตชนและชีวิตนิรันดร

 

บทที่ 1
ข้อความเชื่อเรื่องพระเจ้า

 

พระตรีเอกภาพ เป็นสภาวะทางเทวภาพที่แยกจากกันไม่ได้ เป็นพระธรรมล้ำลึกที่ไม่ใช่สภาวะทางวิทยาศาสตร์ ที่ถูกจำกัดด้วยตัวตน สถานที่ และเวลา

พระตรีเอกภาพ แสดงสภาวะการเป็นหนึ่งเดียวกันในความรัก ในสภาวะของจิตวิญญาณอันบริสุทธิ์ของ 3 พระบุคคล คือ พระบิดา พระบุตร และพระจิต เป็นเรื่องยากเกินความสามารถของมนุษย์ที่จะเข้าใจได้

เราคริสตชนเชื่อว่า ที่ใดมีสันติ และความรัก เราจะพบการประทับอยู่ของพระเจ้า เราจะทราบถึงพระบิดาและพระจิต ในองค์พระบุตรเจ้าและโดยผ่านทางพระคัมภีร์

พระบุตร พระเยซูคริสตเจ้า องค์พระผู้ช่วยให้รอด เป็นองค์พระวจนาตถ์ ผู้มาประทับอยู่ท่ามกลางเรา เป็นมนุษย์เหมือนอย่างเรา เว้นแต่บาป ผู้ได้รับทรมานสิ้นพระชนม์บนกางเขน และกลับคืนชีพเพื่อเป็นค่าไถ่บาปเราทุกคน ให้พ้นจากอำนาจของบาปตลอดนิรันดร

เรารู้ได้จากพระวรสาร หรือข่าวดีขององค์พระเยซูคริสตเจ้า ผู้ทรงลงมาเป็นมนุษย์ ผู้ให้คำสั่งสอน เป็นผู้ช่วยให้รอดและปลดปล่อยเราจากการเป็นทาสของบาป และความตายของเรามนุษย์ตลอดไป

เราพบสัญลักษณ์ หรือความหมายของพระองค์ได้โดย "ความรักแห่งไม้กางเขน" เป็นอนุสรณ์แห่งความรักของพระองค์

พระบิดา องค์พระผู้สร้างสรรพสิ่ง ปรากฏสัญลักษณ์ในรูปแบบของผู้ให้กำเนิด ผู้ปกครอง ผู้สร้าง องค์ความรัก พ่อผู้ใจดีมีเมตตาให้อภัย ผู้ทรงความยุติธรรม และการตัดสินด้วยความชอบธรรม

พระจิตเจ้า การประทับอยู่ของพระจิตเจ้าที่เราพบในพระคัมภีร์จากภาพ และสัญลักษณ์ต่าง ๆ ได้ดังนี้

1.ลม-ปราณ-อากาศ การสร้างและการให้ชีวิต (ปฐก 1:2; 2:7)
2. น้ำ น้ำอันทรงชีวิต (ยน 7:28)
  น้ำแห่งศีลล้างบาป (ยน 19:34)
3. ไฟ การสำแดงพระองค์ (อพย 3:16)
  เหนือบรรดาอัครสาวก (กจ 2:3)
4. นกพิราบ พิธีล้างของพระเยซูเจ้าในแม่น้ำจอร์แดน (มธ 3:16)
5. การเจิมน้ำมัน ตราประทับ การแต่งตั้ง (1 ซมอ 10:17; กจ 10:38)
  การให้กำลังรักษา (มก 6:13)
6. การปกมือ อวยพร และการรักษาของพระเยซูเจ้า
  รวมทั้งบรรดาอัครสาวก
7. แสงสว่าง จากเมฆในท้องฟ้า (อพย 14:21; กจ9:3)

พระจิตเจ้า มีมาตั้งแต่ปฐมกาล และคงความเป็นปัจจุบันเสมอ แต่สิ่งที่แสดงถึงการมีอยู่ของพระจิตเจ้า ปรากฏอยู่ในหลาย ๆ เหตุการณ์ในพระคัมภีร์ (พันธสัญญาใหม่) พระจิตเจ้าเป็นผู้บันดาลความศักดิ์สิทธิ์ให้ชีวิตใหม่ ประทานพละกำลัง และเป็นผู้ช่วยนำทางเราไปสู่ความรอด

ผลของพระจิตเจ้า (กท 5:22-23)

1. สันติสุข ความสงบในจิตใจ พอใจ และรู้คุณค่าของสิ่งต่าง ๆ
  ที่เราจะได้รับจากพระ
2. ชื่นชมยินดี เปี่ยมไปด้วยความหวัง กำลังใจ และการวางใจ
  ในพระเจ้า
3. พลัง มีกำลังที่จะเปลี่ยนแปลง ปรับปรุง และการกลับใจ
  เอาชนะความอ่อนแอในจิตใจของตนเอง
4. ชีวิตใหม่ ในการถูกชำระให้สะอาดบริสุทธิ์ด้วยพระคุณ และความรักของพระที่ให้โอกาสเราเสมอ
5. ความสุภาพ อ่อนโยน อ่อนน้อม ยอมรับขอบเขตจำกัดของตน
  และฟังเสียงของพระในจิตใจของเรา
6. มีเมตตา ใจดี ให้อภัย ให้โอกาสผู้อื่น เหมือนที่พระได้
  ประทานแก่เรา
7. ความรัก พลังรักของพระ ที่สามารถชนะความอ่อนแอของ
  เรามนุษย์ เพื่อให้เราได้รักผู้อื่นเช่นกัน

การรำพึงไตร่ตรองจากประสบการณ์ส่วนตัวคริสตชน จึงควรเรียนรู้พระธรรมล้ำลึก เกี่ยวกับเรื่องพระตรีเอกภาพจากองค์พระบุตร คือองค์พระเยซูคริสตเจ้า ผู้ลงมาบังเกิดเป็นมนุษย์ และมีความสัมพันธ์เป็นหนึ่งเดียวกับพระบิดา และพระจิตเจ้า ดังนั้นพระบุตร เป็นบุคคลที่มีตัวตนที่เราเข้าใจได้ แล้วจึงเชื่อมโยงไปสู่พระบิดา และพระจิตที่เราสามารถรู้ได้ แม้ว่าจะไม่ได้เห็น

(กลับด้านบน)

 

ประวัติพระเยซูเจ้า

พระเยซูเจ้า ได้บังเกิดในรางหญ้า ที่เมืองเบธเลแฮม ประเทศปาเลสไตน์ พระเยซูเจ้าบังเกิดเป็นคนยากจน เมื่อพระเยซูเจ้าบังเกิด เทวทูตได้แจ้งข่าวแก่คนเลี้ยงสัตว์ พวกเขาจึงได้มาเฝ้าพระองค์ บัณฑิตจากบูรพาทิศ เห็นดาวประหลาด และรู้จากคำทำนายว่า พระแมสสิยาห์บังเกิดแล้ว จึงเดินทางมานมัสการพระองค์ เมื่อกษัตริย์เฮโรด คิดจะฆ่าพระเยซูเจ้า นักบุญยอแซฟได้รับคำสั่งจากฑูตสวรรค์ จึงได้พาพระเยซูเจ้าและพระมารดามารีย์หนีไปอยู่ที่ประเทศอียิปต์ ภายหลังออกจากอียิปต์จึงได้ไปอยู่ที่เมืองนาซาเร็ธ พระเยซูเจ้าบังเกิดได้ 8 วันแล้ว ทรงเข้าสุหนัด (ลูกา 2:21) และได้รับพระนามว่า "เยซู" เมื่อครบ 40 วัน พระนางมารีอาไปถือศีลชำระ แะนำพระองค์ไปถวายในพระวิหาร ซีเมโอนซึ่งเป็นผู้เฒ่า ได้รู้จักพระองค์ในโอกาสนั้น

เมื่ออายุ 12 ขวบ พระเยซูเจ้าได้เดินทางไปกรุงเยรูซาเล็มกับบิดามารดา พระองค์ได้หายไป 3 วัน บิดามารดาได้พบพระองค์กำลังโต้ตอบกับพวกนักปราชญ์ในพระวิหาร พระเยซูเจ้าทรงอยู่กับบิดามารดา 30 ปี ที่เมืองนาซาเร็ธ พระองค์นอบน้อมเชื่อฟัง ช่วยทำงานและสวดภาวนา ซึ่งเป็นตัวอย่างแก่เรา เมื่ออายุ 30 ปี ได้รับพิธีล้างจากยอห์น บัปติสต์ และไปที่เปลี่ยวเพื่อจำศีลอดอาหาร และสวดภาวนา 40 วัน 40 คืน และพระองค์ได้ถูกประจญจากปีศาจ พระองค์ชนะการประจญ และพระองค์เริ่มภารกิจตลอดระยะเวลา 3 ปี พระเยซูเจ้าทรงเทศน์สอนสิ่งต่าง ๆ ทรงรักษาคนตาบอด คนง่อย ทรงทำอัศจรรย์ต่าง ๆ มากมาย และทรงทำนายถึงการทรมาน การถูกตรึงกางเขน และการกลับคืนพระชนมชีพของพระองค์

ในคืนสุดท้าย พระเยซูเจ้าทรงกินเลี้ยงปัสกากับสาวก และได้ล้างเท้าให้สาวก ทรงตั้งศีลมหาสนิทขึ้น ยูดาส สาวกผู้ทรยศ ได้รับสินบนพาทหารไปจับกุมพระเยซูเจ้า ขณะที่ยังสวดภาวนาในสวนเกทเสมนี พระเยซูเจ้าถูกน้ำขึ้นศาล แต่เขาหาความผิดไม่ได้ เมื่อพระองค์ยืนยันว่าเป็นบุตรของพระเจ้า เขาจึงลงมติให้ตัดสินประหารชีวิตของพระองค์ พระเยซูเจ้าถูกทรมาน ถูกเฆี่ยน ถูกประจาน สวมมงกุฏหนาม และถูกตรึงบนไม้กางเขน พระองค์ยอมรับทรมาน และสิ้นพระชนม์บนไม้กางเขน เพื่อไถ่บาปมนุษย์ พระองค์ต้องการให้มนุษย์รอดพ้น ทรงสิ้นพระชนม์ ถูกฝังไว้ในคูหา วันที่สามพระองค์ทรงกลับคืนพระชนม์ชีพอย่างรุ่งเรือง

กลับด้านบน

 

 

 

 

 

 

 

ประวัติพระนางมารีอา

มารีอา เป็นหญิงชาวนาซาเร็ธ เป็นบุตรของยออากิม และอันนา เป็นคู่หมั้นกับยอแซฟ ซึ่งเป็นช่างไม้ พระแม่มารีอา เป็นผู้ที่มีส่วนร่วมเหตุการณ์สำคัญของพระเยซูเจ้า ฑูตสวรรค์คาเบียลมาแจ้งข่าวการรับเป็นมารดาของพระเจ้า คือ แม่พระจะตั้งครรภ์ด้วยฤทธิ์อำนาจของพระจิตเจ้า

ในคืนวันคริสต์มาส แม่พระก็ให้กำเนิดทารกน้อย นามว่า "เยซู" ในรางหญ้า แม่พระยอมรับน้ำพระทัยของพระเจ้า ด้วยการตอบรับน้ำพระทัยของพระองค์ แม่พระเป็นผู้พาพระเยซูเจ้าไปอียิปต์พร้อมกับนักบุญยอแซฟ และเลี้ยงดูพระเยซูเจ้าที่นาซาเร็ธ เมื่อพระเยซูเจ้าออกเทศน์สอน แม่พระก็ติดตามช่วยเหลือ และให้กำลังใจเสมอ และที่สุดแม่พระยืนอยู่แทบเชิงกางเขน ในวันที่พระเยซูเจ้าทรงสิ้นพระชนม์บนไม้กางเขน เพื่อไถ่เราทุกคนให้รอด

ณ แทบเชิงกางเขน พระเยซูเจ้าได้มอบแม่พระให้เป็นแม่ของเราทุกคน พระเยซูเจ้าตรัสกับแม่พระว่า "นี่แหละลูกของท่าน" และตรัสกับยอห์นว่า "นี่แหละแม่ของเจ้า" แม่พระก็กลายเป็นแม่ของเรานับแต่นั้นมา แม่พระรัก และทำทุกอย่างเพื่อพระเยซูเจ้า แม่พระรักและทำทุกอย่างเพื่อเราเช่นกัน สิ่งที่แม่พระทำเพื่อเราขณะนี้คือ สวดอ้อนวอนขอพระเจ้าเพื่อเรา นำพระพรจากพระเจ้ามาแจกจ่ายแก่เรา คอยปกปักรักษาคุ้มครองเรา ทั้งกายและวิญญาณ คอนแนะนำสั่งสอนสิ่งที่ดี และถูกต้อง เราจึงควรรักและศรัทธา และเข้ามาพึ่งพระแม่ให้มาก ๆ

ความศรัทธาต่อแม่พระ

ชาวคาทอลิกมีความรักและศรัทธา ต่อพระนางมารีอา ในฐานะพระมารดาของพระเยซูเจ้า แม้ว่าเราอาจจะรู้จักเรื่องราวเกี่ยวกับชีวิตของพระแม่อยู่บ้าง แต่เราก็สามารถรับรู้ได้ถึงชีวิตของพระนางผ่านทางพระคัมภีร์ และข้อคำสอนของพระศาสนจักรดังนี้

พระนางมารีอาในพระคัมภีร์

เราได้ทราบถึงเรื่องของพระนางมารีอา จากนักบุญมัทธิว ที่ได้กล่าวถึงชีวิตของพระนาง กับช่วงชีวิตในวัยเด็กของพระเยซูเจ้าไม่มากนัก พระนางมารีอาพระมารดาพระเจ้า องค์พระเยซูคริสตเจ้า พระผู้ช่วยให้รอด ผู้เป็นบุตรพระเจ้า พระวจนาตถ์ (Logos) ผู้ได้เสด็จมาประทับอยู่ท่ามกลางเรามนุษย์ พระองค์ได้มาบังเกิดในครรภ์ของพระนางมารีอา โดยองค์พระจิตเจ้าด้วยฤทธิ์อำนาจของพระผู้ทรงบันดาลให้สรรพสิ่งบังเกิดขึ้น

พระนางมารีอาตามคำสอนของพระศาสนจักร

แม่พระ เป็นผู้ร่วมมือกับพระเจ้า ในการช่วยให้มนุษย์ชาติทุกคนได้รับความรอด พระนางมารีอาผู้ได้รับเกียรติอันสูงสุดจากองค์พระเจ้า ให้เป็นมารดาของพระเจ้า และเป็นเอวาคนใหม่ที่ปราศจากบาปกำเนิด มีชัยชนะต่อบาป ปีศาจแห่งความชั่วร้าย

แม่พระผู้ตอบรับน้ำพระทัยของพระเจ้า (Fiat) น้อมรับด้วยความสุภาพ ถ่อมตน แม้ว่าจะมีความหนักใจ และกลัวอันตรายกับชีวิต แต่ก็น้อมรับน้ำพระทัยของพระเจ้า

พระศาสนจักร จึงยกย่องให้เกียรติ มีความเลื่อมใสศรัทธาต่อแม่พระเสมอมา เพราะพระเจ้า ทรงพอพระทัยเลือกพระนางเป็นมารดาของพระเจ้า ดำเนินชีวิตเป็นแบบอย่างแก่เราคริสตชน มีชีวิตร่วมในเหตุการณ์แห่งความรอด พร้อมกับองค์พระเยซูคริสตเจ้า พระศาสนจักรมีวันสมโภช วันฉลอง และระลึกถึงพระนางมารีอา ในเหตุการณ์ต่าง ๆ ของชีวิต เพื่อเตือนใจเราให้ระลึกถึงการดำเนินชีวิตอย่างผู้มีความเชื่อศรัทธาต่อพระเจ้า ตามแบบอย่างของพระนางมารีอา

แบบอย่างคุณธรรมของพระนางมารีอาในชีวิตคริสตชน

แม่พระได้เป็นแบบอย่างคุณธรรมให้กับการดำเนินชีวิตของคริสตชน ดังนี้

ความสุภาพ ยอมรับน้ำพระทัยของพระในทุกกรณีของชีวิต มีความ
  สงบในจิตใจ
ผู้รับใช้ บริการช่วยเหลือ มีความเห็นใจ ไม่ถือตัว มีใจเมตตา
  สงสาร
จิตใจยากจน พอใจกับสภาพของชีวิต ไม่เรียกร้อง ไม่ต่อว่าพระ แต่
  น้อมรับเสมอ ยึดพระเป็นศูนย์กลางของชีวิต
ความบริสุทธิ์ คุณค่าทางจิตใจ ยึดความดี และความบริสุทธิ์แห่ง
  จิตวิญญาณแด่พระเสมอ
ความรัก ให้โอกาสผู้อื่น ใจกว้างในชีวิต ไม่ตัดสินผู้อื่น
  ถือความสงบเงียบในจิตใจ
เสียสละ มีเมตตากรุณา ใจดี เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ ไม่ถือดี ไม่อวดตัว
  ไม่ยึดมั่นในตนเอง
ให้อภัยใจสงบ ไม่แก้แค้น ไม่ติดใจ ไม่ผูกใจเจ็บ ไม่โกรธแค้น
  รักสันติ

คารวกิจและการแสดงความศรัทธาต่อแม่พระ

เราสามารถแสดงคารวกิจ และการแสดงความศรัทธาต่อแม่พระได้ดังนี้

การสวดสายประคำ
ระลึกถึงเหตุการณ์ในชีวิตของแม่พระ ร่วมกับองค์พระเยซูเจ้าเป็นพิเศษในเดือน พฤษภาคม และตุลาคม

การพลีกรรมใช้โทษบาปต่าง ๆ
ตามแบบอย่างของพระนางมารีอา ร่วมในการสวดภาวนาอยู่เสมอ มีความศรัทธา วางใจต่อคำภาวนาเสมอ

เดินรูป 14 ภาค
ระลึกถึงพระมหาทรมานของพระเยซูเจ้า ร่วมกับพระนางมารีอา

การทำนพวาร ถวายเกียรติแด่พระมารดานิจจานุเคราะห์

การถวายเกียรติและแห่พระรูป
เพื่อขอพระนางเป็นแบบอย่างผู้นำทางชีวิตคริสตชน และคุ้มครองป้องภัยจากภยันอันตรายต่าง ๆ ในองค์พระเจ้า โดยผ่านทางคำเสนอวิงวอยภาวนาของพระนาง

 

การเปรียบเทียบแบบอย่างชีวิต คุณธรรมของแม่พระ ในการดำเนินชีวิตคริสตชนที่ตรงข้ามกับบาป หรือพยศชั่ว

เหตุการณ์ชีวิตของแม่พระ
คุณธรรม
พยศชั่ว
1. แม่พระรับสาร (ลก 1:26-38) สุภาพ-ยอมรับ จองหอง
2. แม่พระเสด็จเยี่ยมฯ (ลก 1:39-55) รับใช้ บริการ ช่วยเหลือ เกียจคร้าน
3. แม่พระมารดาพระผู้ไถ่ ยากจน-พอใจ ความโลภ
4. แม่พระปฏิสนธินิรมล บริสุทธิ์-คุณค่าแห่งจิตใจ ลามก

(พรหมจรรย์)พระวิหารของพระจิตเจ้า

   
5. แม่พระถือศีลชำระฯ เสียสละ - มีเมตตา ตระหนี่
(ถวายพระกุมารฯ)(ลก 2:22-32)    
6. แม่พระพบพระเยซูเจ้าในพระวิหาร รัก - ให้โอกาส อิจฉา
(ลก 2:48-51)ที่เมืองคานาและใน    
การเทศนา (ลก 8:19-21)    
7. แม่พระมหาทุกข์ (ที่เชิงกางเขน)
(ยน 19:25-27)
ให้อภัย - ใจสงบ โกรธโมโห-
อาฆาต

(กลับด้านบน)

 

 

 

 

 

 

 

 

นักบุญ (Saint)

นักบุญ เป็นผู้ที่ดำเนินชีวิตเป็นพยานถึงข่าวดีแห่งความรอด เป็นแบบอย่างของชีวิตคริสตชนแก่เรา เป็นผู้ศักดิ์สิทธิ์ ในสมัยแรกเริ่มนั้น พระศาสนจักรให้ความสำคัญต่อบรรดามรณสักขี ที่เป็นพยานยืนยันความเชื่อด้วยชีวิต สมัยต่อมา เป็นพวกผู้บำเพ็ญพรต ถือศีลภาวนา และถือศีลพรหมจรรย์ มีชีวิตที่สนิทกับพระ รวมถึงบรรดาผู้อุทิศของตน รับใช้ในงานการช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ทุกคนให้ได้รับความรอด

พระศาสนจักร ประกาศถึงแบบอย่างของชีวิต ความศักดิ์สิทธิ์และเป็นผู้ที่มีชัยชนะ เปี่ยมด้วยคุณธรรมแบบอย่างชีวิตแห่งพระวรสาร และพวกท่านเหล่านั้นก็จะเป็นผู้ที่สวดภาวนาให้แก่พวกเราเช่นเดียวกัน ดังนั้น เราจึงมีความศรัทธา สวดภาวนา ยึดท่านเป็นแบบอย่างของชีวิต และวอนขอความช่วยเหลือจากบรรดานักบุญเพื่อช่วยภาวนา และขอพระพรจากพระ เพื่อช่วยเราในเวลาและเหตุการณ์ที่เหมาะสม เพื่อจะเป็นประโยชน์แก่ชีวิตของเรา ต่อน้ำพระทัยของพระเจ้า

สหพันธ์นักบุญ ประกอบด้วย

1. บรรดานักบุญที่อยู่ในสวรรค์ คือผู้ที่ได้รับชัยชนะแล้ว บรรลุเป้าหมายในชีวิตนิรันดร

2. บรรดาดวงวิญญาณในไฟชำระ คือผู้ที่รอการชำระให้บริสุทธิ์ รอคอยด้วยความหวังเพื่อชีวิตนิรันดรในสวรรค์

3. บรรดาผู้ที่มีชีวิตอยู่บนโลกนี้ คือเราทุกคน ผู้ที่กำลังเดินทางอยู่ในชีวิตปัจจุบันนี้

สำหรับสหพันธ์นักบุญของทั้ง 3 สภาวะ อยู่ที่การภาวนาที่ส่งให้แก่กันและกัน คอยติดต่อช่วยเหลือกัน เป็นกำลังใจให้แก่กัน ในคำภาวนา เพื่อการไปสู่เป้าหมายเดียวกันคือ บ้านแท้ของเราในสวรรค์

รูปเคารพ ไม่ใช่เครื่องลางของขลังที่บันดาลสิ่งที่ขอให้ได้ดังปรารถนา แต่เป็นความศรัทธาที่บุคคลมีต่อรูปเคารพ เพื่อเป็นสัญลักษณ์เตือนใจที่เราเห็นได้ และเตือนความเชื่อภายในจิตใจของเรา โดยอาศัยรูปประกอบภายนอก เพื่อยกจิตใจขึ้นหาพระ เพื่อประทานพระคุณ พระหรรษทานคุ้มครองดูแลรักษาชีวิต และเกิดผลจากความเชื่อที่งดงามในจิตใจของเรา โดยผ่านทางการสวดภาวนาด้วยความเชื่อวางใจ และศรัทธาอย่างแท้จริง และทำให้นึกถึงคุณธรรมของท่าน จะได้พยายามดำเนินชีวิตตามแบบอย่างของท่านในชีวิตของเรา

เป้าหมายในชีวิตคริสตชน และชีวิตนิรันดรในสวรรค์

การบรรลุเป้าหมายคือ การได้รับความรอดในชีวิตฝ่ายวิญญาณ ดังที่นักบุญเปาโลได้กล่าวไว้ในจดหมายถึงชาวโครินทร์ฉบับที่ 1 บทที่ 5 ในเรื่อง "ชีวิตนิรันดร" ซึ่งถือเป็นเป้าหมายสูงสุดของเราคริสตชน เป็นความสัมพันธ์ระหว่างพันธสัญญาการช่วยให้รอด หรือ "ข่าวดีแห่งความรอด" สำหรับเราทุกคน ส่วนทางฝ่ายมนุษย์ก็จะต้องร่วมมือ และปฏิบัติตามน้ำพระทัยของพระในชีวิตประจำวันโดยซื่อสัตย์ และตอบรับน้ำพระทัยของพระอย่างจริงใจ ตามคำสอนของพระองค์ด้วยความรักและศรัทธาวางใจ พร้อมที่จะปฏิบัติตามด้วยความเชื่อ และด้วยน้ำใจอิสระ เนื่องจากการกลับคืนพระชนมชีพขององค์พระเยซูคริสตเจ้าผู้มีชัยชนะต่อบาป และความตาย เพื่อจะเข้าสู่ชีวิตใหม่ในความครบครันเป็นหนึ่งเดียวกับพระบิดาเจ้าในสวรรค์ ดังนั้น สวรรค์จึงมิใช่รางวัลหรือผลพลอยได้จากชีวิตนี้เท่านั้น แต่สวรรค์เป็น "เป้าหมายของชีวิต" ชีวิตที่ต่อเนื่องจากชีวิตบนโลกนี้ และเป็นชีวิตที่มุ่งไปสู่ความบริบูรณ์อย่างแท้จริงในทุกสิ่ง เพราะมนุษย์ประกอบด้วยร่างกาย และวิญญาณ เป็นบุคคลทั้งครบ และจะเข้าสู่ความครบครันบริบูรณ์สูงสุดในชีวิตหน้า คือชีวิตนิรันดรในสวรรค์ เพราะฉะนั้น จากจุดเริ่มต้นแห่งการกลับคืนชีพเข้าสู่ชีวิตใหม่ในสวรรค์ขององค์พระเยซูคริสตเจ้านั้น จึงเป็นเป้าหมายสูงสุดของเรา มนุษย์ทุกคนที่มีความหวังและซื่อสัตย์ต่อการปฏิบัติตน ตามน้ำพระทัยของพระเสมอในชีวิตประจำวัน ตามแนวทาง หรือคำสอนขององค์พระเยซูคริสตเจ้า ที่ทรงเป็น "หนทาง ความจริง และชีวิต" ชีวิตจึงเป็นการต่อเนื่องสัมพันธ์ และก้าวหน้าต่อไป ชีวิตมิใช่การเปลี่ยนแปลงสภาพใหม่หลังจากความตาย ดังนั้นสำหรับผู้มีความเชื่อ ความวางใจและความรักต่อพระ พยายามอดทน พากเพียร ออกแรงเพื่อเอาชนะต่อบาป ความโน้มเอียงไม่ดีของตนเอง และร่วมมือกับพระหรรษทานของพระในการแสดงความรัก เสียสละ อดทน และให้อภัยต่อเพื่อนพี่น้อง และทุกคนเพื่อสร้างสรรค์โลกนี้ ให้มีสันติสุข ยุติธรรม และความรัก ให้เป็นสวรรค์ ณ แผ่นดิน ตั้งแต่อยู่ในโลกนี้

สำหรับผู้มีความเชื่อ ความหวัง ความศรัทธา และปฏิบัติตามบัญญัตรักของพระ เขาก็จะสามารถก้าวหน้าต่อไปในชีวิตนิรันดรในสวรรค์ "เพื่อพระเจ้าจะได้เป็นทุกสิ่งในทุกอย่าง" (1คร 15:28) สำหรับเราทุกคนผู้มีความเชื่อ ความวางใจ และความรัก


 

 

Free Web Hosting